หลวงพ่อขันตี ญาณวโร
วัดป่าม่วงไข่ ต.สานตม อ.ภูเรือ จ.เลย
วัดป่าม่วงไข่ ต.สานตม อ.ภูเรือ จ.เลย
หลวงพ่อขันตี เกิดเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ.2486 ตรงกับวันอังคาร ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 ปีมะแม เป็นชาวขอนแก่นโดยกำเนิด ปัจจุบัน สิริอายุ 74 พรรษา 54 (เมื่อปี พ.ศ.2561) ปัจจุบันจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าม่วงไข่
หลวงพ่อขันตี เกิด ณ บ้านเลขที่ 136 หมู่ 8 ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ของแก่น(ปัจจุบันคือ บ้านหนองบัว อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น) โยมบิดาชื่อ นายชัย แสนคำ โยมมารดาชื่อ นางแพง แสนคำ มีพี่น้องร่วมบิดา มารดาทั้งหมด 7 คน โดยหลวงพ่อขันตี ญาณวโร เป็นลูกคนโต หลวงพ่อทวี ปุญฺญปญฺโญ เป็นลูกคนเล็กสุด(ชื่อเดิมนายทวี แสนคำ)

![]() |
สามเณรขันตี |
![]() |
พระอุโบสถวัดศรีจันทร์ |
![]() |
หลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโก |
![]() |
หลวงปู่คำดี ปภาโส |
ในปีดังกล่าวที่ท่านได้มาจำพรรษาที่วัดถ้ำผาปู่ มีพระเณรทั้งหมด 40 รูป หลวงพ่อขันตีท่านกล่าวว่า"ในปีนั้นจิตใจท่านฟุ้งซ่าน วุ้นวายเป็นอย่างมาก" ซึ่งหลวงปู่คำดีท่านก็ทราบดี ท่านจึงแนะนำให้หลวงพ่อขันตีมีความอดทน ปรารบให้เร่งความเพียรมากยิ่งขึ้น ให้หลีกเร้นจากหมู่คณะ ให้หาที่สงบภาวนาให้มาก ให้ละความกังวนต่างๆ กลับมาตั้งสติตั้งใจภาวนาเร่งให้เกิดความสงบ..."
จนในพรรษาที่ 3 ปี พ.ศ.2509 หลวงปู่คำดี จึงพาหลวงพ่อขันตีไปจำพรรษา ณ วัดป่าหนองแซง จ.อุดรธานี กับ หลวงปู่บัว สิริปุณโณ ซึ่งท่านเป็นเจ้าอาวาสในขณะนั้น เมื่อไปถึงที่วัดหลวงปู่บัวท่านก็ให้โอวาทธรรมว่า"เรื่องจิตใจที่หลอกลวงตลอดเวลานั้น เป็นเพราะการ
![]() |
หลวงปู่บัว สิริปุณโณ |
ครั้งพอออกพรรษาในปี 2509 นั้นหลวงปู่คำดีท่านก็กลับไปอยู่ที่วัดถ้ำผาปู่ โดยหลวงพ่อขันตีกราบเรียนขออนุญาตจากหลวงปู่คำดี ไม่กลับไปวัดถ้ำผาปู่ด้วย แต่จะอยู่ปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่บัวนี้ก่อนสักระยะหนึ่ง หลวงปู่คำดีท่านก็เมตตาอนุญาต ในระหว่างที่อยู่วัดป่าหนองแซงนี้ หลวงพ่อขันตีท่านก็อยากเที่ยวไปกราบครูบาอาจารย์ในที่อื่นๆ หลวงปู่บัวท่านก็ทราบว่า หลวงพ่อขันตีท่านตอนนี้ มีจิตใจที่ยังวุ้นวายอยู่ท่านจึงให้โอวาท หลวงพ่อขันตีเตือนใจว่า"การที่เราจะเที่ยวไปหาครูบาอาจารย์ทั้งหลายนั้น ต้องพิจารณาดูว่าไปด้วยเหตุผลอันใด การปฏิบัติทำความเพียรนั้นร่วนเกิดแต่ตัวเราทั้งสิ้น ครูบาอาจารย์ท่านจะปฎิบัติแทนเราไม่ได้ การบำเพ็ญเพียรภาวนา เราต้องทำด้วยตัวเราเองเท่านั้นผลจึงจะเกิดกับตัวเรา ครูบาอาจารย์จะมาทำแทนเราได้หรือ ท่านเป็นแต่เพียงผู้บอก ผู้สอนเราเท่านั้น" ท่านจึงกลับมาพิจารณาในคำสอนเตือนสติของหลวงปู่บัว จึงทำให้ท่านมีกำลังใจใน ความพากความเพียรเพิ่มมากขึ้น ทั้งแล้วก็ทำให้จิตใจท่านสงบลงมาก ท่านจึงอยู่ภาวนากับหลวงปู่บัว ที่วัดหนองแซงนี้อีก 4 พรรษา รวมเป็น 5 พรรษากับการอยู่ปฎิบัติที่นี้...
ต่อมาในพรรษาที่ 13 ปี พ.ศ. 2519 ท่านได้จาริกธุดงค์ไปจำพรรษา
![]() |
หลวงปู่ชอบ ฐานสโม |
ในพรรษาที่ 14-15 ประมาณปี พ.ศ. 2520-2521 ท่านได้ธุดงค์ไปจำ
พรรษา ณ วัดป่าแม่ริน(ห้วยน้ำริม) อ.แม่ริมจ.เชียงใหม่ และที่ อ.ปาย แม่ฮ่องสอน สถานที่แห่งนี้ทำให้จิตใจหลวงพ่อขันตี ได้มีโอกาสรละว่างความโกรธความพยาบาทลงได้ เพราะได้ตั้งใจทำความเพียรทั้งวันทั้งคืน ทำให้จิตสงบทำให้ได้เห็นอานิสงค์ ว่าคนที่ดุด่าว่ากล่าวตนล้วนแต่เป็นผู้มีพระคุณทั้งนั้น หลวงพ่อขันตีท่านกล่าวว่า"อยุ่ปฎิบัติที่นี้ ท่านก็ได้นำคำสอนของพ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงปู่คำดีมา พิจารณาว่าหากใจยินดีในสุข ก็ต้องเป็นทุกข์ ทุกข์นี้ก็มีคุณมากเพราะจะทำให้เราเห็นโทษเห็นภัย และจะได้ตั้งใจให้ออกจากทุกข์ เร่งการบำเพ็ญให้มากเพื่อจะได้หนีจากทุกข์ เพราะถ้ามีแต่สุขจะไม่เห็นโทษแห่งทุกข์ที่มีอยู่เลย จะประมาทมัวเมาในชีวิต ไม่ตั้งใจบำเพ็ญภาวนา ก็ต้องตกเป็นธาตุของกิเลสตลอด แล้วก็ตายโดยไม่พบแสงสว่าง ตายโดยไม่ได้มรรค ไม่ได้ผลอะไรเพราะใจนั้นมืดบอด อยู่กับวัตถุข้าวของ เงินทอง ที่ไม่มีแก่นสารอะไร" นี้คือคำสอนของหลวงปู่คำดีที่สอนหลวงพ่อขันตี ให้ภาวนาตั้วใจบำเพ็ญเพียร อย่าอยากได้โน่น ได้นี้ ให้ตั้งใจปฎิบัติบูชาคุณพระพุทธเจ้า ไม่ต้องส่งจิตส่งใจออกไปภายนอก ทั้งคดีทั้งอนาคต ให้กำหนดรู้ปัจจุบันภายในจิตเท่านั้น วันเวลาล้วงไปล้วงไปบัดนี้เราทำอะไรอยู่ ถ้ามีสติธรรมก็จะเกิด ละทุกข์ได้ ให้ตั้งใจปฎิบัติตามคำสอน ไม่ใช่เอาแต่หลับนอนเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ สิ่งที่หน้ากลัวที่สุดคือกิเลสภายในใจเรานี้เอง...
หลวงปู่ขาว อนาลโย |
พรรษาที่ 16 ประมาณ พ.ศ.2522 หลวงพ่อขันตี ท่านก็ได้จาริธุดงค์ไปพักจำพรรษา ณ วัดถ้ำกลองเพล จ.อุดรธานี กับหลวงปู่ขาว อนาลโย เป็นเวลา 1 พรรษา ในหว่างอยู่จำพรรษากับหลวงปู่ขาวนี้ หลวงปู่ขาวท่านสอนหลวงพ่อขันตี ให้บำเพ็ญเพียร โดยการตั้งสัจจะ รักษาสัจจะ ในการบำเพ็ญภาวนา
ช่วงพรรษาที่ 17 พ.ศ.2523 ท่านได้กลับไปจำพรรษาที่จังหวัดเลยอีกครั้ง ในช่วงพรรษาที่ 18 ราวปี 2524 ได้ธุดงค์ไปจำพรรษา ณ วัดอโศการาม จ.สมุทปราการ พอพรรษา 19-23 ใน พ.ศ.2525-2529 ท่านกลับมาจำพรรษาที่วัดห้วยเดื่อ อ.วังสะพุง จ.เลย ในช่วงพรรษาที่ 24 ท่านได้มาจำพรรษาวัดป่าบ้านบง อ.ภูเรือ จ.เลย ในปี พ.ศ.2530
ช่วงพรรษาที่ 25-34 พ.ศ.2531-2540 ท่านก็ได้มาจำพรรษา ณ วัดป่าห้วยเดื่อ อ.วังสะพุง จ.เลย(วัดป่าสันติธรรม) ซึ่งในช่วง 10 ปีนี้ ท่านได้มีโอกาสแวะเวียนไปดูแล ปฎิบัติกับหลวงปู่ชอบ ที่วัดป่าโคมน อยู่เป็นประจำ จนถึงปี 2538 หลวงปู่ชอบท่านก็ละสังขาร ซึ่งหลวงพ่อขันตี ท่านก็อยู่ช่วยงานตั้งแต่แรก จนงานพระราชทานเพลิงแล้วเสร็จ
![]() |
หลวงปู่ไชย สัญตุฏฐิโก |
![]() |
พิพิธภัณฑ์หลวงปู่ชอบ วัดป่าม่วงไข่ |
ปัจจุบันหลวงพ่อขันตี ญาณวโร มาจำพรรษา ณ วัดป่าม่วงไข่ ตั้งแต่ ปี 2545 จวบจนปัจจุบัน ซึ่งที่วัดป่าม่วงไข่แห่งนี้ ท่านเคยมาอยู่พักภาวนาก่อนแล้วสมัยหลวงปู่ชอบ และหลวงปู่ชอบ ท่านก็ได้สร้างไว้มาก่อน...
**ประสบการเที่ยวจาริกธุดงค์อยู่กับครูบาอาจารย์**
หลวงพ่อขันตีในระหว่างที่ท่านเที่ยวธุดงค์อยู่นั้น ท่านกล่าวว่า ท่านเคยไปอยู่ปฎิบัติกับครูบาอาจารย์หลายองค์ พ่อแม่ครูบาอาจารย์ทุกองค์ต่างให้ความเมตตาสั่งสอนท่าน ทำให้ท่านมีกำลังใจ แม้ว่าจะธุดงค์ลำบากยากเข็นขนาดไหน ท่านก็อด ก็ทน เอาชีวิตเข้าแลกธรรม บูชาคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยะสงฆ์....
![]() |
หลวงพ่อขันตี หลวงปู่คำดี |
โดยทีแรกอยู่ถ้ำผาปู่กับหลวงปู่คำดี ปภาโส 2 พรรษา หลวงพ่อขันตีท่านกล่าวว่า"หลวงปู่คำดีท่าน จะสอนให้เราภาวนา แรกๆท่านอธิบายเรื่องจริตทางธรรมอย่างละเอียดให้ฟัง จนเข้าใจแล้วไปปฎิบัติ ท่านสอนให้รู้จักอด จักทน ก่อนเราจะออกจากท่านไป ท่านก็ให้โอวาทว่า"ขันตีเอ่ยไปไหนก็ให้อด ให้ทนเด้อ อย่าทำตัวดีตัวเด่น ให้รู้จักสำรวมมีสติเด้อ..""
หลังพอออกพรรษาแล้วหลวงพ่อขันที่ ท่านก็ไปอยู่กับ หลวงปู่บัว สิริปุณโณ วัดป่าหนองแซง จ.อุดรธานี ไปอยู่กับหลวงปู่บัวถึง 5 พรรษา ตอนนนั้นท่านกล่าวว่า "เราตั้งหน้า ตั้งตาภาวนาเต็มที่ละตอน
![]() |
หลวงปู่บัว สิริปุณโณ |
หลังจากอยู่กับหลวงปู่บัวจนได้หลักจิต หลักใจพอสมควรแล้ว
![]() |
หลวงพ่อขันตี หลวงปู่ชอบ |
ท่านเล่าต่อไปว่า ท่านไปอยู่กับหลวงปู่ขาว อนาลโย 1 พรรษา
![]() |
หลวงปู่ขาว หลวงปู่ชอบ |
ประมาณพรรษาได้ 10 กว่าๆหลวงพ่อขันตี ท่านเคยไปอยู่กับ
![]() |
หลวงพ่อขันตี หลวงปู่หลุย |
หลวงพ่อขันตี เคยเล่าว่า ท่านเองเคยไปอยู่
![]() |
หลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ |
**ด้านวัตถุมงคลหลวงพ่อขันตี**
ปกติแล้วหลวงพ่อขันตีท่านไม่ได้คิดว่าจะมี ปฎิปทามาทางด้านสร้างเสกวัตถุมงคลนี้เลย แต่ในปี 2538 มีลูกศิษย์สายกรุงเทพ มาขออนุญาตหลวงพ่อจัดสร้างเหรียญรูปพระพุทธขึ้น โดยชื่อว่า "หลวงพ่อเพชร" แต่อย่างไรไม่ทราบมีการจัดสร้าง เหรียญรูปหลวงพ่อขึ้นมาด้วย จึงได้กลายเป็นว่า ท่านได้มีเหรียญรุ่นแรกขึ้นในปีนี้ 2538
ท่านก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรเพราะสร้างขึ้นมาแล้ว ท่านก็จึงเลยตามเลย แจกกันไปตามความศรัทธา และนับแต่นั้นมาก็มีพระออกในนามหลวงพ่อมากมายหลายร้อยรุ่น โดยทั้งสร้างอย่างเป็นทางการ และไม่เป็นทางการ จากคณะศิษย์หลายสาย
หลวงพ่อท่าน เองท่านก็มีเมตตา เมตตาอธิษฐานจิตให้ทุกๆรุ่นที่สร้างมา ไม่ว่าจะออกในนามท่าน หรือ ออกในนามวัดอื่น ดังนั้นในที่นี้จึงขอนำเสนอเพียงบางรุ่นของหลวงพ่อเท่านั้น พอเป็นวิทยาทานตัวอย่าง...
![]() |
เหรียญหลวงพ่อขันตี รุ่นแรก |
เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อขันตี ออกเมื่อ ปี2538 โดยคณะศิษย์สายกรุงเทพสร้างถวาย มีทั้งเหรียญหลวงพ่อเพชรพิมพ์ใหญ่ และ พิมพ์เล็กออกพร้อมกันด้วย
![]() |
เหรียญรุ่นแรก พิมพ์พระพุทธใหญ่ |
โดยออกที่วัดห้วยเดื่อ อ.หนองหิน จ.เลย จำนวนสร้างเพียงเนื้อทองแดงเท่านั้น หลวงพ่อเพชร พิมพ์ใหญ่ 5,000 เหรียญ หลวงพ่อเพชรพิมพ์เล็ก 5,000 เหรียญ พิมพ์รูปเหมือน 5,000 เหรียญ
หลวงพ่อท่านเมตตาอธิษฐานจิตและมอบให้ ครูบาอาจารย์สาย
โดยไว้แจกแก่ผู้ศรัทธา และแจกแก่ลูกศิษย์ในวันที่ 12 ต.ค. 2538
ในวาระครบรอบ 53 ปี ของหลวงพ่อขันตี ญาณวโร
เมื่อทางหลวงพ่อขันตี ได้รับเหรียญ รุ่นแรกของท่านทั้ง 2 แบบ แล้ว
![]() |
เหรียญพระพุทธรุ่นแรก พิมพ์เล็ก |
จนเมื่องานผูกพัทธสีมาบ้านห้วยเดื่อ หลวงพ่อขันตี ได้มอบเหรียญหลวงพ่อเพชร และ เหรียญรูปท่าน ซึ่งเป็นรุ่นแรกของท่าน ให้หลวงปู่จันทา ถาวโร วัดป่าเขาน้อย จ.พิจิต หลวงพ่อทิวา อาภากโร หลวงพ่อจันทร์เรียน คณวโร วัดถ้ำสหาย อธิษฐานจิตก่อน ก่อนจะออกแจกให้ญาตโยมได้บูชา
![]() |
รูปหล่อรุ่นแรก หลวงพ่อขันตี |