หน้าเว็บ

ประวัติและปฎิปทาหลวงตาประพันธ์ กิตติโสภโณ


หลวงตาประพันธ์ กิตติโสภโณ
วัดป่าวิเวกภูเขาวงษ์ อ.ผาขาว ต.ผาขาว จ.เลย


หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
         หลวงตาประพันธ์ กิตฺติโสภโณ เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ ๑๘ เดือน สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๙๑ ปีชวด ณ บ้านสัมพันธ์ ตำบลขัวเรียง อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น  มีบิดาคือ  นายเฮียง น้อยยุ่น และมารดาคือ นางบุญจันทร์  น้อยยุ่น  หลวงตาประพันธ์ กิตฺติโสภโณ ท่านมีพระอาจารย์  ๒ องค์  คือ หลวงปู่ชอบ  ฐานสโม และ หลวงปู่เกต กิตฺติวังโส  ท่านหลวงปู่ทั้ง  ๒ องค์นั้นท่านช่วยกันเทศน์เอาหลวงตาออกบวช หลวงปู่ชอบท่านเทศน์  ๓ คำ คือ

๑. จิตคนเรามันมีหยาบ
๒. จิตคนเรามันมีปานกลาง
๓. จิตคนเรามีละเอียด


พระอุโบสถ วัดศรีมงคลเหนือ
         หลังจากฟังเทศน์ จากท่านหลวงปู่ชอบแล้วจิตใจ ท่านประพันธ์ได้หลุดพ้นจากการเป็นฆราวาส  จากนั้นปี พ.ศ. ๒๕๓๒  จึงออกจากบ้านปากปวน  ตำบลปากปวน  อำเภอวังสะพุง  จังหวัดเลย  มาบวชเป็นตาปะขาวที่บ้านม่วงหัก  ตำบลโพนทราย  อำเภอเมือง  จังหวัดมุกดาหาร  บวชตาปะขาวอยู่  ๔  เดือน  แล้วจากนั้น หลวงปู่เกต กิตฺติวังโส จึงพาไปบวชพระ  ณ  วัดศรีมงคลเหนือ ตำบลเมือง อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร หลังจากบวชแล้วได้  นามฉายา  กิตฺติโสภโณ  มีพระอุปปัชฌาย์คือ  พระครูจันทรวิสุทธิ์  พระกรรมวาจาคือ  พระครูประภากร  วิสุทธิ์  พระอนุสาวนาจารย์คือ  พระใบฏีกายู้ กันตสีโล  อุปสมบทเมื่ออายุ  ๔๒  ปี  วันที่  ๑๘  เดือน  มิถุนายน  พ.ศ. ๒๕๓๕  เวลา  ๑๐.๓๕  น.  ณ  วัดศรีมงคลเหนือ 

          หลวงตาประพันธ์ กิตฺติโสภโณ ไม่ได้บวชกับหลวงปู่ชอบ  เพราะขณะนั้นหลวงปู่ชอบ  เป็นอัมพาตมาหลายปีแล้ว จึงไปบวชกับพระอาจารย์  ที่เป็นศิษย์ของหลวงปู่ แทนคือ  หลวงปุ่เกต กิตฺติวังโส  หลังจากบวชแล้ว  หลวงตาพันธ์ได้จำพรรษา  ที่วัดป่าหนองบุดดา  ตำบลโพนทราย  อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร  เมื่อวันที่  ๑๘  เดือน  มิถุนายน  พ.ศ. ๒๕๓๒  ก่อนที่หลวงตาประพันธ์ กิตฺติโสภโณ จะออกธุดงค์ภาวนาในปี  พ.ศ. ๒๕๓๕  หลวงตาประพันธ์ กิตฺติโสภโณ  ได้กราบลา  หลวงปู่เกต  กิตฺติวังโส  ท่านได้ให้ธรรมะ  ก่อนออกธุดงค์ครั้งแรกว่า

๑.  ที่ไหนกลัวให้ไปที่นั่น
๒.  อย่าเป็นพระนักเทศน์เพราะจะไม่ได้ภาวนา
๓.  อย่าเข้าวัดถ้าออกจากวัดแล้วให้อยู่ป่าค้นหาธรรม
๔.  ถ้าจิตขัดข้องค่อยเข้าหาครูอาจารย์  ถ้าไม่ขัดข้องไม่ให้มา  ให้ตายในป่า หลวงตาจึงน้อมรับคำสอนของหลวงปู่เกต  จากนั้นหลวงตา  ก็ออกธุดงค์ภาวนา  ในป่าในเขาและหมู่บ้านถิ่นทุรกันดารหลายที่หลายแห่ง  ท่านหลวงตายังได้พา  ลูกศิษย์ยานุศิษย์สร้างวัดและที่พักสงฆ์ไว้หลายที่

**ช่วงที่อยู่กับหลวงปู่ชอบ หลวงปู่เกตุ**


     
หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
    ในช่วงที่ท่านอยู่ฟังธรรมกับหลวงปู่ชอบนั้นมีด้วยกันสองช่วงคือ ช่วงแรกท่านยังเป็นฆราวาสอยู่ ก็ได้แวะเวียนไปฟังธรรม และสนทนากับหลวงปู่ชอบอยู่เสมอๆหลายปี ท่านกล่าวว่า "ในช่วงนั้นหลวงปู่ชอบท่านเป็นอัมพาตแล้ว แต่ท่านก็ยังอบรมณ์ สั่งสอนข้อวัตรปฏิบัติให้ลูกศิษย์ลูกหาอยู่ ตอนสมัยหลวงปู่ชอบอยู่นั้น เราก็อยู่ที่โคกมนเหมือนกัน สมัยนั้นพระทำข้อวัตรต่างๆได้ดี ขนาดห้องน้ำ ห้องท่านี้สะอาดมาก..."


หลวงปู่เกตุ กิตติวังโส
       
พอท่านบวชพระแล้ว ท่านก็ได้มาอยู่ปฎิบัติกับหลวงปู่ชอบระยะหนึ่ง ก่อนจะออกมาอยู่กับ หลวงปู่เกตุ กิตติวังโส ซึ่งหลวงปู่เกตุนี้ นับว่าเป็นศิษย์รุ่นแรกๆ ของหลวงปู่ชอบ เนื่องจากหลวงปู่เกตุ เคยติดตามหลวงปู่ชอบ ออกธุดงค์ในที่ต่างๆ ซึ่งตอนนั้นหลวงปู่เกตุยังไม่ได้บวชเป็นพระ แต่เป็นตาปะขาว ติดตามดูแลอุปปัฏฐากหลวงปู่ชอบ มาโดยตลอด จนต่อมาหลวงปู่ชอบจึงพาหลวงปู่เกตุออกบวชด้วยตัวท่านเอง


     หลวงตาประพัน หลังจากท่านบวชแล้ว ท่านก็ได้ไปอยู่ปฏิบัติกับหลวงปู่เกตุ ซึ่งในช่วงนี้ท่านว่า หลวงปู่เกตุทรมานกิเลสในใจของท่าน ด้วยธรรมะข้อวัตรปฎิบัติอย่างเคร่งครัด ท่านกล่าวว่า "สมัยนั้นอยู่กับหลวงปู่เกตุ ต้องภาวนาตลอดจะนอนแทบไม่ได้ ถ้าอยู่กุฏินี้ ท่านเห็นเงียบๆ ท่านจะเดินมาดูทันที ถ้าเห็นว่านอนท่านจะมาปลุกให้ภาวนา ถ้าไม่งันท่านก็จะไล่หนี ไม่ให้อยู่ด้วย"

หลวงตาประพันธ์ ท่านก็ปฏิบัติอยู่กับหลวงปู่เกตุอย่างหนัก จนพอได้หลักใจแล้วจึงกราบลาหลวงปู่เกตุ ออกธุดงค์เที่ยวกรรมฐาน หลวงปู่เกตุท่านก็อนุญาตและให้โอวาทธรรม กับหลวงตาประพันธ์ว่า "ที่ใดหน้ากลัวที่อันตราย ให้ไปที่นั้นจิตใจจะได้กำลังจิต กำลังใจ ถ้าติดขัดอะไรจึงออกมาหาครูบาอาจารย์ อย่าออกมาจากป่าถ้าไม่มีอะไรติดขัด ให้เร่งบำเพ็ญภาวนา...."


หลวงตาประพันธ์ สมัยธุดงค์
         หลวงตาประพันธ์ ท่านก็เที่ยวธุดงค์ไปตามป่าเขา ลำเนาไพร พักอยู่ในป่าในเขา เข้าพรรษาก็มาอยู่จำพรรษาตามสำนักสงฆ์ในถิ่นทุรกันดาร พอออกพรรษาก็เข้าป่า หาธุดงค์ในป่ามาโดยตลอด ในระหว่างนี้หลวงตาบอกกับผู้เขียนว่า "ท่านได้เร่งความเพียรอย่างหนัก บางครั้งก็ไม่ได้นอนติดต่อกัน 2-3 วัน เพราะเร่งภาวนา สู้กับกิเลสเอาชีวิตเข้าแลกธรรมะ เพราะท่านกล่าวว่า ราบวชเข้ามาเพราะอยากพ้นทุกข์"  ท่านกล่าวทิ้งท้ายว่า "เราสู้กับกิเลสจนปราบเรียบ แต่ไม่อาจบอกได้ว่าที่ไหนแบบใด มันจะเป็นโลกะวัชชะ โลกเขาจะติดเตียนเอาได้ ก็จะบอกเฉพาะที่บอกได้เท่านั้น เท่านี้ แล้วกันนะ...."


**มาจำพรรษาวัดป่าวิเวกภูเขาวงษ์**


บริเวณวัดป่าภูเขาวงษ์
       ท่านธุดงค์มาถึงวัดป่าวิเวกภูเขาวงษ์แห่งนี้ ท่านว่า ที่แห่งนี้เดิมเป็นวัดอยู่แล้ว โดยหลวงปู่ผาง จิตตคุตโต ท่านได้มาสร้างไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2481 หลวงตาประพันธ์ กล่าวว่า "เรามาภาวนาที่นี้ดี เรามาอยู่นี้ตั้งแต่ปี 2552 เพราะก่อนหน้านี้เราอยู่วัดเก่าที่ วัดป่าภูดิน 
จ.หนองบัวลำภู...."


       
แบบพระมหาเจดีย์ที่กำลังก่อสร้าง
 พอหลวงตาประพันธ์ได้มาอยู่ที่นี้ ท่านก็พาศรัทธาญาติโยม บูรณะกุฏิศาลาต่างๆที่มีอยู่เดิมของวัด และสร้างสิ่งปลูกสร้างขึ้นมา เพื่อรองรับคณะศรัทธาญาติโยมใหม่ จนในปี พ.ศ.2552 หลวงตาประพันธ์ ท่านได้ดำริ
สร้างพระมหาเจดีย์ เพื่อเป็นอนุสรณ์ธรรม บูชาคุณครูบาอาจารย์ หลวงปู่ชอบ หลวงปู่เกตุ โดยท่านได้กราบนิมนต์หลวงปู่โกวิท เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ มาเป็นประธานว่าง ศิลาฤกษ์ก่อสร้างพระมหาเจดีย์ในครั้งนี้....หลวงตาประพันธ์ ท่านมาอยู่ที่วัดป่าวิเวกภูเขาวงษ์ตั้งแต่ปี 2552 จวบจนปัจจุบัน

**สร้างตึกสงฆ์หลวงปู่ชอบ**

      เดิมที โรงพยาบาลหลวงปู่ชอบ  ฐานสโม  สร้างขึ้นเมื่อสมัยหลวงปู่ชอบยังมีชีวิตอยู่  ที่  บ้านโคกมน  ตำบลผาน้อย  อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย  ต่อมา  หลวงปู่ชอบท่านได้ละสังขารไปก็ไม่มีใครดำเนินการต่อให้แล้วเสร็จ

         ก่อนตึกสงฆ์จะเกิด  หลวงตาประพันธ์ กิตฺติโสภโณ ได้นึกถึงหลวงปู่ชอบ  ซึ่งเป็นอัมพาตมาหลายปี  หลวงตา  ได้แต่คิดอยู่ในใจว่า “เราเป็นพระผู้น้อย  จะทำอย่างไรจึงจะมีปัญญาสร้างโรงพยาบาล  ให้หลวงปู่ชอบให้แล้วเสร็จ”   ตอนนั้นหลวงตานั่งอยู่ยอดดอย  ณ  วัดฟองงอย  บ้านหนองผักบุ้ง ตำบลวังกวาง อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์



หลวงตาประพัน
พิจารณาวัตถุมงคล
         และเมื่อปี  พ.ศ.  ๒๕๔๖  หลวงตาประพันธ์ กิตฺติโสภโณ  ท่านมีอายุพรรษา  ๑๕  พรรษาพอดี  จึงคิดริเริ่มที่สร้างโรงพยาบาลสงฆ์อาพาธหลวงปู่ชอบ ในคืนหนึ่งได้แต่คิด  เดินจงกรมคิด  นั่งภาวนาคิดว่า “ทำอย่างไรเราจึงจะมีวาสนาสร้างโรงพยาบาลหลวงปู่ชอบให้เสร็จทำไมจึงต้องมาเกี่ยวข้องกับใจเรา  เพราะลูกศิษย์มี  ตั้งเยอะแยะไป”   หลวงตาจึงตั้งสัจจะอธิษฐานจิตว่า “เราไม่มีศรัทธาจากลูกศิษย์ผู้มีเงินมีทองที่ไหนเลย ได้แต่นั่งภาวนาคิดอยู่นี่ ใครหนอที่เคยสร้างบุญด้วยกันมาแต่ชาติปางก่อน  ให้ร้อนถึง ณ คน ๆ นั้น ณ เวลา  นี้

เวลาผ่านไปไม่ถึงอาทิตย์ มีแรงบันดาลให้ลูกศิษย์จากแต่ละทิศมากราบหลวงตา แล้วปรึกษากัน  มีพ่อตู้เทียง  พ่อหนึ่ง  หลวงตาเลยพูดเรื่องสร้างโรงพยาบาล  ให้ลูกศิษย์ฟัง ลูกศิษย์จึงเห็นดีด้วย จึงได้เงินเริ่มต้นจากพ่อหนึ่งสมทบทุน ๔,๐๐๐ บาท ด้วยแรงบันดาลที่หลวงตาประพันธ์ตั้งสัจจะอธิษฐานไว้ได้ไปดลบันดาลให้ หนูเบ็น  กับ โยมป๋องซึ่งเป็นสามีและภรรยากัน




              หลวงตาประพันธ์ กิตฺติโสภโณ เลยปรารภเรื่องสร้างโรงพยาบาลตึกสงฆ์อาพาธ  เพื่อถวายหลวงปู่ชอบ  ไม่รู้จะได้ทุนมา  จากไหนบังเอิญคนทั้งสองนี้เป็นลูกสาวและ ลูกเขยเจ้าของโรงงานหล่อพระอ่างที่จังหวัดชลบุรี  จึงได้ถวายปัจจัยไว้คนละ  10000  บาท  หลวงตาจะได้พาสร้างโรงพยาบาลให้หลวงปู่ชอบ  และถามโยมเบ็นกับโยมป๋องและหนูเล็กว่า เงินจำนวน 34000  นี้สามารถทำพระได้ไหม ทำได้กี่องค์ โยมเจ้าของโรงงานหล่อพระอ่าง ก็บอกว่าได้หลายองค์

จากเงินจำนวน 34000 ท่านจึงได้ให้โยมทั้งสอง จัดทำเหรียญรูปท่านขึ้นครั้งแรก เพื่อหาปัจจัยสมทบทุนสร้างดึกสงฆ์ให้เสร็จ โดยตั้งงบไว้ที่ 20 ล้านบาท  จัดทำด้วยกัน 3 แบบ คือ 
1. พระกริ่ง 2. เหรียญกลม 3. เหรียญรูปวงรี


เหรียญรุ่นแรก สร้างโรงพยาบาล
        หลังจากนั้นจึงเริ่มทำการก่อสร้างโรงพยาบาลตึกสงฆ์อาพาธ  รวมระยะเวลาก่อสร้างนาน  ๑๑  เดือน  โดยไม่มีใครเชื่อว่าจะทำเสร็จ  จากแรงศรัทธาของศิษย์ยานุศิษย์ทุกหนทุกแห่งต่างก็มาช่วยกันทั้งหมด  ทั้งถวายปัจจัยคนละ  ๑๐ – ๑๐๐ - ๑,๐๐๐  บาท  ใครมีกำลังแรงก็ช่วยแรง  ใครมีกำลังทรัพย์ก็ช่วยทรัพย์ร่วมกันสร้างจนแล้วเสร็จ  ด้วยงบประมาณของหลวงตา  และญาติโยมทั่วสารทิศ  (ด้วยปัจจัยเริ่มต้นแค่  ๓๔,๐๐๐  บาท  ก็ยอดบุญมาเป็น  ๒๐  ล้านบาท)


**ด้านวัตถุมงคล**

             หลวงตาประพันธ์ เคยเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า แรกเริ่มเดิมที ท่านไม่ได้คิดว่าจะคิดสร้างวัตถุใดๆเลย บวชเข้ามาเพียรเร่งทำความเพียรภาวนา ละกิเลส เท่านั้น แต่เนื่องด้วยมีความจำเป็นเข้ามาเกี่ยวเนื่องกัน ท่านจึงให้มีการจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นมา เพื่อมอบให้แก่ลูกศิษย์ ศรัทธาญาติโยมที่มาช่วยงานบุญต่างๆ ที่หลวงตาพาดำเนินสร้างทำมา..

โดยปฐมเหตุแห่งการสร้างเหรียญครั้งแรกนั้นก็มาจาก การสร้างตึกสงฆ์หลวงปู่ชอบ ที่หนองบัวลำภูนี้เอง "เดิมทีท่านจะสร้างเหรียญรูปหลวงปู่ชอบ แต่ด้วยอย่างไรไม่ทราบ ครูบาอาจารย์ในสมัยนั้น ท่านไม่ค่อยสนับสนุนด้วยเท่าไรนัก ท่านจึงต้องทำเหรียญรูปท่านขึ้นมาเอง"

         ปี พ.ศ.  ๒๕๔๖  นั่งภาวนาอยู่  ณ  ยอดดอย  วัดฟองงอย  ตั้งสัจจะไว้ “ขอถวายหลวงปู่ชอบ  คุณธรรมทั้งหลาย  บารมีทั้งหลาย  ที่มีในหลวงปู่  จงมาอยู่ในเหรียญ  หลวงตา  ให้เหรียญมีอนุภาพเหมือนหลวงปู่ทุกอย่าง  เหรียญนั้นเป็นของลูกศิษย์  แต่อนุภาพและบารมีธรรมเป็นของหลวงปู่  ขอจงได้สำเร็จ” และเมื่อออกพรรษา  หลวงตา  จึงอนุญาตให้ลูกศิษย์ของหลวงตา  ทำเหรียญรุ่นแรกสร้างโรงพยาบาล  ออกมามีหลายแบบคือ

รูปหล่อรุ่นแรกอุดผง

เหรียญรุ่นแรกแบบกลม
เหรียญรุ่นแรกแบบวงรี
 หลังจากเหรียญทั้งหมดได้ถูกแจกจ่าย ไปให้กับคณะผู้ศรัทธาญาติโยมที่มาบูชาร่วมบุญสร้างโรงพยาบาลแล้ว จนทำให้โรงพยาบาลแล้วเสร็จขึ้นมาได้ภายใน 11 เดือนเท่านั้น



       
หลวงตานำเหรียญไป
ฝากไว้แม่น้ำโขง
หลังจากนั้นหลวงตาก็ได้นำเหรียญที่เหลือทั้งหมด โดยหลวงตา
 พร้อมทั้งศิษย์ยานุศิษย์หลายคนก็ได้นำเหรียญ  หลวงตา  รุ่นแรกสร้างโรงพยาบาล  ขึ้นรถยนต์ฟอร์ดเอวอเรส  และขบวนรถคณะศิษย์ยานุศิษย์อีกหลายคันมุ่งหน้าไปยังฝั่งแม่น้ำโขง  ที่  วัดท่าสองนาง บ้านน้อย  หมู่  ๔ ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย เวลาประมาณบ่าย  ๒ โมง  หลวงตา  ได้กำเหรียญโยนลงน้ำโขงและได้ให้ลูกศิษย์หลายคนช่วยกันโยนเหรียญลงแม่น้ำโขงตามที่ท่านได้ตั้งสัจจะเอาไว้  ก่อนที่จะโยนเหรียญลงแม่น้ำโขง  หลวงตาได้อธิฐานจิตไว้ว่า 
 “ข้าพเจ้าได้สร้างโรงพยาบาลตึกสงฆ์อาพาธถวายให้ครูบาอาจารย์เสร็จแล้วข้าพเจ้าได้เอาเหรียญมาเทลงแม่น้ำโขงตามสัญญาขอให้พญานาคช่วยเก็บรักษาเหรียญนี้ไว้ด้วย” เวลาผ่านไปนาน  ๑  ปี  ๔  เดือนเศษจนถึง  ณ  วันนี้”......

อ้างอิงข้อมูลจาก
- http://www.kaentong.com/index.php?topic=8075.0
- หนังสือประวัติวัดป่าภูเขาวงษ์